ห้องที่ ๑๔๕ : นายประภาษมณเฑียร


           ราหูเจบทั่วทั้ง สกนธ์
ต้องสาตรตกเวหล บอบช้ำ
แฃงจิตรรีบจรดล เฝ้าลูก เธอเอย
ทูลรับสารภาพซ้ำ ซบเกล้าเกลือกวอน
           บัลไลยจักรโกรธกริ้ว ราหู
กระทืบบาทดูดู๋ ถ่อยแท้
มึงประมาดริปู ควรฆ่า มึงเฮย
มาแต่งกลกันแก้ ตรัสให้คุมตัว
           เสด็จทูลบิตรไท้ว่า ราหู
ลูกสั่งคุมคอยดู เฃตรฟ้า
ปละปล่อยพวกสัตรู ชิงแย่ง มนุษยเนอ
หนีหลบไม่รบร้า ชั่วแท้เสียที
           จอมมารดาลกริ้วสั่ง สังหาญ
เพชฌฆาฏรับโองการ ธิราชเจ้า
จับอสุระราหูมาร ภารีบ เรวแฮ
ถึงที่มัดตัดเกล้า เสียบไว้กลางเมือง
           จักรวรรดิขุ่นแค้น เคืองคิด
เข่นฆ่าปัจจามิตร ห่อนได้
โอรสรับต่อฤทธิ วันพรุ่ง นี้เฮย
นบบาททูลลาไท้ สั่งพร้อมจัตุรงค์
           โอรสธิราชท้าว แปดหัดถ
ไสยาศฤไทยกลัด ตฤกเศร้า
มานะวิตกตัด เตรียมแต่ง องคแฮ
เมื่อรุ่งยกพลเร้า ประชิดใกล้ดัษกร
           พระพรตประภาษเอื้อน บัญชา
เสียงกึกก้องมยุรา ใคร่รู้
พิเภกสอบวาตา คมบาท ทูลแฮ
โอรสจักรวรรดิสู้ คาบนี้มันตาย
          พระทรงสดับถ้อย โหรทูล
เปรมพระไทยใดปูน เปรียบได้
สรงเสรจเสดจรถยูร ยาตรยก พยุหเฮย
พร้อมกรบินชิดใช้ เร่งเร้าถึงสนาม
           นิลพัทเหนทัพรั้ง รออยุด
พวกกระบี่ถอยซุด ย่นยั้ง
พิโรธแกว่งตรีรุด แทงหวด ยักษแฮ
ตายแตกบต่อตั้ง ตื่นเต้นเร้นหนี
           บัลไลยจักรโกรธกริ้ว วานร
ขว้างจักรไปราญรอน ไล่ล้าง
พระพรตลั่นสาตรศร หมายพิฆาฎ มารแฮ
ถูกจักรกระจายคว้าง พินาศม้วยรถพล
           ขุนยักษรถหักสิ้น เสียนิกาย
แผลงสาตรเปนไฟพราย ไล่ล้าง
พระพรตลั่นศรมลาย พิรุณดับ เพลิงแฮ
อสุเรศไล่ตีคว้าง พี่น้องสององค์
           สององค์ตีบุตรเจ้า มลิวัน
ถูกกระเดนเผ่นผัน ฟาดซ้ำ
แผลงศรเสียบดิ้นยัน ติดทั่ว ตัวแฮ
ยักษอ่านเวทหายซ้ำ เหาะขึ้นเมฆา
           แลเหนกลีบเมฆซ้อน สมหวัง
รีบซ่อนกายกำบัง มิดเมี้ยน
ทนงจิตรโองหัง ลับลิ่ว ลิบแฮ
สุดเนตรฆ่าศึกเสี้ยน ห่อนรู้กูหนี
           พระพรตฤทธิล้ำ แผลงศร
ต้องยักษยับกายฟอน หลบลี้
ถามโหรว่าดัศกร มันอยู่ ไหนนา
พิเภกกราบทูลชี้ ฟากฟ้ามารแฝง
          น้องนารายน์ทราบสิ้น ทรงศิลป์
งามดุจพระรามินทร์ เพริศพริ้ง
แผลงพรหมมาศเสทือนดิน รอญชีพ มารแฮ
ดั้นเมฆตัดเศียรกลิ้ง ตกพื้นพสุธา
           อับศรเทเวศอื้อ คำฃาน
เอิกเกริกทั่วพิมาน แซ่ซ้อง
บัลไลยจักรวายปราณ เย็นโลกย ฦๅเฮย
ตบหัดถสนั่นก้อง ดอกไม้โปรยถวาย
           สององค์ทรงเสร็จล้าง กุมภัณฑ์
เสียงแซ่ชาวสวรรค เยี่ยมยิ้ม
โปรยทิพบุบผาพรรณ พระเลือก ชมเอย
ลิงเก็บชมดมลิ้ม เลิกเข้าพลับพลา
           อสูรคอยเหตุแจ้ง ใจสยอง
อกสทึกขนพอง รีบเฝ้า
สองนายกราบทูลฉลอง ศึกพ่าย
โอรสพระผ่านเกล้า สุดสิ้นพระชนม์
           พยามารทราบโศกเศร้า เสียใจ
คนึงนึกหวนหฤไทย เนตรช้ำ
ฤๅพ่อพิลาไลย ลาญชีพ
หมายยืดพระยศค้ำ คู่ด้าวแดนมาร
           สี่โอฐออกโอฐโอ้ อนิจา
แปดเนตรนองธารา พรากพร้อย
แปดพระหัดถซ้ายขวา ซับภักตร พระเอย
นาสิกสี่อยาดย้อย ขัดข้องลมฆาน
           จักรวรรดิส่างเศร้า โศกศัลย
ตรัสสั่งสุพินพลัน อย่าช้า
อสูรจัดพลขันธ เสร็จกราบ ทูลเอย
รถรัตนจัดเตรียมม้า พรั่งพร้อมพลขบวน
          จอมยักษกวักเรียกเจ้า วัชนี สูรเฮย
ทรงรถทรงโสกี รีบร้อน
เสด็จทางวนาศรี สว่างแจ่ม จันทรเอย
ถึงศพกอดลูกช้อน เกษอุ้มโอดครวญ
           วัชนีกำสรดเศร้า กรรแสง
ดวงพระเนตรดามแดง ดั่งย้อย
สิ้นเสียงพระสูญแรง ถวัดวาบ หวิวเฮย
ยังแต่หัททัยน้อย รริกริ้วรึงทรวง
           จอมวังตั้งแต่เศ้รา โศกศัลย
จวนเยี่ยมรพีพรรณ ผ่องฟ้า
ค่อยคลายที่ทรงกรร แสงโศก สั่งเฮย
ศพใส่รถเร่งม้า มุ่งเมื้อมลิวัน
           ถึงวังสั่งหีบแก้ว ใส่ศพ
ตั้งเครื่องตามขนบ แว่นฟ้า
ภอบ่ายพระจอมภพ เสด็จจุด เพลิงเอย
พระญาติสการพร้อมหน้า แซ่ซ้องเสียงประโคม
           ภอพระสุริเยศเยื้อง อัษฎงค์
ชวนวัชนีอนงค นาฏน้อง
ทั้งพระประยูรวงษ สนมแน่น พร้อมนา
เถ้าแก่ชแม่ซ้อง เสด็จขึ้นสู่ปราง
           จอมยักษหนักอกโอ้ อาทวา
ไสยาศก่ายภักตรา ตฤกช้ำ
ลูกสองต่อศักดา ดับชีพ
มารกระบิลพลอยซ้ำ มอดม้วยหมดมือ
           ท้าวแสนเทวศว้า อาดูร
จนจวบแสงสุริยจรูญ จรัศฟ้า
สรงเสร็จเสด็จยูร ยาตรออก พระโรงเฮย
ตรัสสั่งเทียบพลกล้า กลั่นไว้ตามขบวน

จบห้องที่ ๑๔๕

  เนื้อความกล่าวถึงราหูซึ่งบาดเจ็บบอบช้ำทั้งตัวเข้าเฝ้าบัลไลยจักรขอรับโทษ บัลไลยจักรทูลท้าวจักรวรรดิว่าราหูปล่อยให้พระสัตรุดหนีไปได้ ท้าวจักรวรรดิจึงสั่งตัดหัวราหูเสียบประจาน ท้าวจักรวรรดิเคืองแค้นที่ฆ่าศัตรูไม่ได้ บัลไลยจักรรับอาสาสู้ศึก วันรุ่งขึ้น พระพรตเตรียมออกศึก พิเภกทูลว่าบัลไลยจักรจะสิ้นชีพในครั้งนี้ เมื่อถึงสนามรบ เข้าต่อสู้กัน นิลพัทเห็นพลวานรถอยร่น จึงแกว่งตรีเข้าสังหารยักษ์ บัลไลยจักรโกรธจึงขว้างจักรเมฆสูรไปไล่ฆ่าพลวานร พระพรตแผลงศรหมายสังหารบัลไลยจักร ศรถูกจักรแตกพินาศและทำลายรถทรง บัลไลยจักรจึงแผลงศรเป็นเพลิง พระพรตแผลงศรเป็นฝนดับไฟ บัลไลยจักรจึงเข้าสู้กับพระพรตและพระสัตรุด แต่ถูกศรของ ๒ พระองค์เสียบทั่วร่าง บัลไลยจักรร่ายมนตร์ลูบศรให้หลุดออกหมด แล้วเหาะขึ้นไปกำบังกายในกลีบเมฆ พิเภกทูลพระพรตให้ทราบที่ซ่อน พระพรตจึงแผลงศรพรหมมาศดั้นเมฆขึ้นไปตัดเศียรบัลไลยจักรสิ้นชีพตกลงมายังพื้นดิน ท้าวจักรวรรดิทราบเรื่องก็โศกเศร้า ออกไปรับศพโอรสกลับเข้าเมือง

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ยักษอ่านเวทหายช้ำ”